กรมอุตุนิยมวิทยาได้ออกประกาศเตือนว่าในช่วงวันที่ 3-9 กันยายนนี้ ทั่วประเทศไทยจะมีฝนตกหนาแน่น โดยหลายพื้นที่อาจเผชิญกับสถานการณ์น้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก และดินโคลนถล่ม ซึ่งบางพื้นที่อาจซ้ำรอยน้ำท่วมที่เคยเกิดขึ้นในช่วงก่อนหน้านี้ โดยเฉพาะในกว่า 20 จังหวัด และหลายเขตในเมืองใหญ่แทบทุกภาคของประเทศ
ทั้งนี้ กรมอุตุนิยมวิทยาคาดว่าเดือนกันยายนจะเป็นเดือนที่ประเทศไทยมีฝนตกชุกอย่างต่อเนื่อง โดยมีฝนฟ้าคะนองปกคลุมพื้นที่ประมาณ 60-80% ทั่วประเทศ ซึ่งจะส่งผลให้เกิดความเสี่ยงของฝนตกหนักและน้ำท่วมฉับพลัน รวมถึงน้ำล้นตลิ่งในหลายพื้นที่อีกครั้ง
นอกจากนี้ ในช่วงวันที่ 3-7 กันยายน ร่องมรสุมจะเคลื่อนตัวลงมาพาดผ่านภาคเหนือตอนล่าง ภาคกลาง และภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ขณะเดียวกันมรสุมตะวันตกเฉียงใต้ที่พัดปกคลุมทะเลอันดามันและอ่าวไทยจะมีกำลังแรงขึ้น ซึ่งจะส่งผลให้ปริมาณฝนเพิ่มขึ้นอย่างมาก โดยเฉพาะในพื้นที่ภาคกลาง รวมถึงกรุงเทพมหานครและปริมณฑล รวมถึงภาคตะวันออก ซึ่งอาจเผชิญกับสถานการณ์น้ำท่วมฉับพลันและน้ำป่าไหลหลาก
สำหรับคลื่นลมบริเวณทะเลอันดามันตอนบนมีความแรงปานกลาง โดยมีคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร ส่วนทะเลอันดามันตอนล่างและอ่าวไทยตอนบนมีคลื่นสูง 1-2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นอาจสูงเกินกว่า 2 เมตร ขอให้ชาวเรือในบริเวณดังกล่าวเดินเรือด้วยความระมัดระวังและหลีกเลี่ยงการเดินเรือในพื้นที่ที่มีฝนฟ้าคะนอง
สำหรับพายุโซนร้อน “ยางิ” บริเวณประเทศฟิลิปปินส์ มีแนวโน้มเคลื่อนตัวไปทางตอนใต้ของเกาะไต้หวัน ประเทศจีน และจะเคลื่อนตัวลงสู่ทะเลจีนใต้ตอนบนในช่วงวันที่ 3-4 กันยายน 2567
ในวันที่ 2 กันยายน 2567 ยังมีสถานการณ์น้ำท่วมในพื้นที่ 4 จังหวัด ได้แก่
- จ.เชียงราย: อ.เทิง, อ.ขุนตาล, อ.เมืองเชียงราย, อ.พญาเม็งราย, อ.แม่สรวย, อ.แม่ลาว
- จ.สุโขทัย: อ.ศรีสัชนาลัย, อ.สวรรคโลก, อ.ศรีสำโรง, อ.เมืองสุโขทัย, อ.ศรีนคร, อ.กงไกรลาศ
- จ.พิษณุโลก: อ.บางระกำ, อ.พรหมพิราม, อ.บางกระทุ่ม, อ.ชาติตระการ, อ.เมืองพิษณุโลก
- จ.หนองคาย: อ.เมือง, อ.สังคม, อ.รัตนวาปี, อ.ศรีเชียงใหม่, อ.ท่าบ่อ
สถานการณ์แม่น้ำยังคงล้นตลิ่งในบางพื้นที่ โดยแม่น้ำยมยังต้องเฝ้าระวังน้ำท่วม โดยเฉพาะบริเวณสถานี Y.64 อ.บางระกำ จ.พิษณุโลก ที่ระดับน้ำอยู่ที่ 7.20 เมตร สูงกว่าตลิ่งและมีแนวโน้มเพิ่มขึ้นเล็กน้อย คาดว่าจะลดลงและเข้าสู่ระดับตลิ่งในวันที่ 10 กันยายน 2567
สำหรับสถานการณ์แม่น้ำเจ้าพระยา ที่สถานี C.2 อ.เมืองนครสวรรค์ จ.นครสวรรค์ มีความจุของลำน้ำอยู่ที่ 3,660 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที ปัจจุบันปริมาณน้ำอยู่ที่ 1,555 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที (ร้อยละ 42 ของความจุลำน้ำ) คาดว่าในช่วง 7 วันข้างหน้าปริมาณน้ำจะอยู่ระหว่าง 1,505-1,575 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที (ร้อยละ 41-43 ของความจุลำน้ำ) และจะมีการระบายน้ำด้วยอัตรา 1,400 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาทีอย่างต่อเนื่อง ส่วนสถานี C.29A ที่ศูนย์ศิลปชีพบางไทร จ.พระนครศรีอยุธยา มีความจุลำน้ำ 3,500 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที ปัจจุบันมีปริมาณน้ำ 1,365 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที (ร้อยละ 39 ของความจุลำน้ำ)
ก่อนหน้านี้ สำนักงานทรัพยากรน้ำแห่งชาติ (สทนช.) ได้ออกประกาศฉบับที่ 13/2567 เตือนให้เฝ้าระวังน้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก และคาดการณ์สภาพอากาศ พบว่าร่องมรสุมพาดผ่านภาคเหนือตอนล่าง ภาคกลาง และภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ขณะที่มรสุมตะวันตกเฉียงใต้มีกำลังแรงขึ้น ทำให้ประเทศไทยมีฝนตกหนักในบางพื้นที่ของภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคตะวันออก และภาคใต้
สทนช. ได้ประเมินสถานการณ์น้ำร่วมกับกรมอุตุนิยมวิทยาและสถาบันสารสนเทศทรัพยากรน้ำ (องค์การมหาชน) โดยคาดการณ์พื้นที่เสี่ยงน้ำหลากและดินโคลนถล่มในพื้นที่ต้นน้ำ พบว่ามีพื้นที่เสี่ยงที่ต้องเฝ้าระวังในช่วงวันที่ 3-9 กันยายน
จังหวัดที่เสี่ยงต่อน้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก และดินโคลนถล่ม รวมถึงพื้นที่ชุมชนเมืองที่เกิดน้ำท่วมขังบ่อยเนื่องจากการระบายน้ำไม่ทัน ในช่วงวันที่ 3-9 กันยายน 2567 มีดังนี้:
ภาคเหนือ
- ตาก: อ.ท่าสองยาง, อ.แม่สอด, อ.พบพระ, อ.อุ้มผาง
- สุโขทัย: อ.เมืองสุโขทัย, อ.ศรีสัชนาลัย, อ.ทุ่งเสลี่ยม, อ.กงไกรลาศ
- อุตรดิตถ์: อ.เมืองอุตรดิตถ์, อ.ฟากท่า, อ.น้ำปาด, อ.ตรอน
- พิษณุโลก: อ.ชาติตระการ, อ.นครไทย, อ.วัดโบสถ์, อ.วังทอง, อ.เนินมะปราง
- เพชรบูรณ์: อ.เมืองเพชรบูรณ์, อ.หนองไผ่, อ.หล่มเก่า, อ.หล่มสัก
ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ
- เลย: อ.นาแห้ว, อ.เชียงคาน, อ.ด่านซ้าย, อ.ปากชม
- หนองคาย: อ.เมืองหนองคาย, อ.สังคม, อ.ศรีเชียงใหม่, อ.ท่าบ่อ, อ.โพนพิสัย, อ.โพธิ์ตาก
- บึงกาฬ: อ.เมืองบึงกาฬ, อ.ปากคาด, อ.บุ่งคล้า, อ.โซ่พิสัย, อ.เซกา, อ.บึงโขงหลง
- อุบลราชธานี: อ.เมืองอุบลราชธานี, อ.วารินชำราบ, อ.ตาลสุม, อ.น้ำยืน, อ.พิบูลมังสาหาร, อ.น้ำขุ่น
ภาคตะวันออก
- นครนายก: อ.เมืองนครนายก, อ.ปากพลี, อ.บ้านนา
- ปราจีนบุรี: อ.เมืองปราจีนบุรี, อ.ประจันตคาม, อ.นาดี, อ.กบินทร์บุรี
- ชลบุรี: อ.เมืองชลบุรี, อ.บางละมุง, อ.ศรีราชา
- ระยอง: อ.เมืองระยอง, อ.บ้านค่าย, อ.ปลวกแดง, อ.นิคมพัฒนา
- จันทบุรี: อ.เมืองจันทบุรี, อ.ขลุง, อ.ท่าใหม่, อ.เขาคิชฌกูฏ, อ.มะขาม
- ตราด: อ.เมืองตราด, อ.บ่อไร่, อ.เขาสมิง, อ.แหลมงอบ, อ.คลองใหญ่, อ.เกาะกูด
ภาคใต้
- ชุมพร: อ.ท่าแซะ, อ.สวี
- ระนอง: อ.ระนอง, อ.กระบุรี, อ.ละอุ่น, อ.กะเปอร์, อ.สุขสำราญ
- พังงา: อ.เมืองพังงา, อ.คุระบุรี, อ.ตะกั่วป่า, อ.กะปง, อ.ท้ายเหมือง
- ภูเก็ต: อ.เมืองภูเก็ต, อ.กะทู้, อ.ถลาง
- สุราษฎร์ธานี: อ.เมืองสุราษฎร์ธานี, อ.คีรีรัฐนิคม, อ.พุนพิน, อ.พระแสง, อ.เวียงสระ
- นครศรีธรรมราช: อ.เมืองนครศรีธรรมราช, อ.เชียรใหญ่, อ.ลานสกา, อ.ถ้ำพรรณรา, อ.ทุ่งใหญ่
- ตรัง: อ.เมืองตรัง, อ.สิเกา, อ.ย่านตาขาว, อ.กันตัง, อ.ห้วยยอด, อ.รัษฎา, อ.วังวิเศษ
- พัทลุง: อ.เมืองพัทลุง, อ.ปากพะยูน, อ.กงหรา, อ.ศรีนครินทร์, อ.ควนขนุน
- สตูล: อ.เมืองสตูล, อ.ควนโดน, อ.ควนกาหลง, อ.ทุ่งหว้า, อ.มะนัง
กรุงเทพมหานคร
มีความเสี่ยงฝนตกหนักสูงสุดในเดือนกันยายน โดยปริมาณฝนเฉลี่ยจากวันที่ 1 มกราคม – 26 พฤษภาคม 2567 อยู่ที่ 229.7 มิลลิเมตร โดยปริมาณฝนเฉลี่ยต่อเดือนคาดการณ์เป็นดังนี้:
- พฤษภาคม: 121.5 มิลลิเมตร
- มิถุนายน: 142.7 มิลลิเมตร
- กรกฎาคม: 137.5 มิลลิเมตร
- สิงหาคม: 139.1 มิลลิเมตร
- กันยายน: 279.9 มิลลิเมตร
- ตุลาคม: 157.6 มิลลิเมตร
เดือนกันยายนถือเป็นเดือนที่มีความเสี่ยงจากฝนตกหนักและน้ำท่วมมากที่สุด ซึ่งกรุงเทพมหานครอาจมีน้ำท่วมขังเนื่องจากการระบายน้ำไม่ทัน
ขอบคุณข้อมูลจาก: https://theactive.net/