เด็กชายวัย 16 ปี ดื่มน้ำวันละ 9 ลิตร จนรู้ว่าเป็นอะไร แพทย์เตือน 4 อาการนี้ให้ไปพบแพทย์ทันที
เว็บไซต์ HK01 รายงานเรื่องราวของเด็กชายวัย 16 ปี ในกว่างโจว ประเทศจีน ชื่อปินปิน (นามสมมุติ) ที่ดื่มน้ำเกือบ 9 ลิตรต่อวัน และกินอาหารไม่หยุด พ่อของเขาสังเกตเห็นความผิดปกติในช่วงปิดเทอมฤดูร้อนปี 2564 และเริ่มกังวลเกี่ยวกับปัญหาไตหรือเบาหวาน แต่ผลตรวจสุขภาพในขณะนั้นกลับปกติ ปริมาณการดื่มน้ำของปินปินลดลง ทำให้ไม่ได้รับการรักษาเพิ่มเติม
ต่อมา พฤติกรรมของปินปินเริ่มผิดปกติ โกรธง่ายผิดปกติ โดยเริ่มคิดว่าเป็นโรคซึมเศร้าช่วงวัยรุ่น จึงรักษาในทิศทางนั้น แต่หลังจากหลายเดือนอาการไม่ดีขึ้น ปินปินเริ่มมีปัญหาการมองเห็น ทำให้เดินสะดุดและล้มบ่อย หลังจากไปพบแพทย์หลายครั้ง ในที่สุดก็ถูกวินิจฉัยว่าเป็นเนื้องอกในสมอง
แต่ฝันร้ายยังไม่จบ หลังการผ่าตัดเอาเนื้องอกออก ปินปินประสบปัญหาความจำระยะสั้น น้ำหนักตัวเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วจาก 50 กิโลกรัมเป็น 75 กิโลกรัม และนิสัยเปลี่ยนไปอย่างสิ้นเชิง ทำให้ครอบครัวทุกข์ใจ
“นิสัยของเขาไม่เหมือนเดิมเลย ต้องคอยจับตาดูเขาตลอดเวลา เพราะไม่รู้ว่าเขาจะทำอะไรในวินาทีถัดไป”
ในเดือนพฤษภาคม 2566 ปินปินได้รับการรักษาเพิ่มเติมที่โรงพยาบาลทางสมอง และได้รับการวินิจฉัยว่าเป็นเนื้องอกเซลล์สืบพันธุ์ชนิดผสม
หลังการผ่าตัดยังพบสัญญาณของการกลับมาเป็นซ้ำ อีกทั้งยังมีความผิดปกติของระบบต่อมไร้ท่อและการติดเชื้อในปอด ทำให้ปินปินมีอาการไข้ซ้ำ ๆ ตัวบวม และอารมณ์หงุดหงิดตลอดเวลา
หลังจากรับการฉายรังสี 4 ครั้ง อุณหภูมิร่างกายของปินปินกลับสู่ปกติ อารมณ์เริ่มคงที่ และปริมาณการดื่มน้ำลดลงเหลือประมาณ 3 ลิตรต่อวัน
แพทย์เตือนว่า สำหรับผู้ป่วยเนื้องอกเซลล์สืบพันธุ์บริเวณกึ่งกลางสมองเช่นปินปิน โดยทั่วไปมักจะมีอาการ 4 อย่าง ได้แก่ “ดื่มน้ำมาก”, “ปัสสาวะบ่อย”, “การมองเห็นลดลง” และ “ความผิดปกติของระบบต่อมไร้ท่อ” หากมีอาการเหล่านี้ ควรรีบไปพบแพทย์ทันที