จากกรณีเพจเฟซบุ๊ก “กำแพงเพชร ร้องเรียนอะไร บอกไว้ที่นี่” ได้นำเสนอเรื่องราวจากเจ้าของบ้านรายหนึ่งที่ร้องทุกข์ขอความเป็นธรรม โดยมีเนื้อหาว่า “เจ้าของบ้านสุดช้ำ… เด็กข้างบ้านมาปีนกำแพงรั้วเล่นจนกำแพงล้มทับขาหัก ผู้ปกครองเรียกร้องเงินเยียวยา 1 แสนบาท”
เหตุการณ์เกิดขึ้นเมื่อวันที่ 22 มิ.ย. 67 มีเด็กหญิงอายุ 7 ขวบวิ่งเล่นแถวบ้าน และด้วยความซุกซนจึงไปโหนกำแพงรั้วจนทำให้กำแพงพังลงมาทับขาของเด็ก จนขาซ้ายหัก ผู้ปกครองของเด็กจึงเข้าแจ้งความว่าเจ้าของบ้านประมาท ทำให้เด็กได้รับบาดเจ็บสาหัส มีการพูดคุยไกล่เกลี่ยกัน แต่ฝ่ายผู้ปกครองเด็กเรียกค่าเสียหาย 1 แสนบาท เจ้าของบ้านไม่มีเงินจ่ายจึงถูกดำเนินคดี
จากการลงพื้นที่ตรวจสอบที่บ้านเกิดเหตุ ในพื้นที่หมู่ 13 ตำบลไตรตรึงษ์ อำเภอเมือง จังหวัดกำแพงเพชร พบว่ากำแพงอิฐบล็อกฝั่งขวาของบ้านได้พังลงไปทับเด็กหญิงจนขาหัก โดยเจ้าของบ้านเล่าว่า ในวันเกิดเหตุไม่ได้อยู่บ้าน มีเพียงชาวบ้านที่เห็นเหตุการณ์ว่ามีเด็กมาโหนกำแพงจนพัง และกำแพงได้ทับขาของเด็ก ผู้ปกครองเด็กจึงพาไปโรงพยาบาล และมีการผ่าตัดรักษา
ภายหลังแม่ของเด็กได้โพสต์บนโซเชียลว่าทางเจ้าของบ้านไม่สนใจเยี่ยมเยียนลูกของตน ทางเจ้าของบ้านจึงถามว่า “กำแพงบ้านอยู่เฉย ๆ ทำไมต้องผิด” แม่เด็กจึงตอบว่า “กำแพงซ่อมได้ แต่ขาของลูกซ่อมไม่ได้” ทำให้เกิดการโต้เถียงกัน
เจ้าของบ้านมองว่าตนเองไม่ผิด เพราะเด็กเป็นฝ่ายมาโหนกำแพงจนพังเอง แต่กลับถูกกล่าวหาว่าประมาท ซึ่งตนคิดว่าไม่ยุติธรรม จึงร้องเรียนไปยังสื่อและขอความช่วยเหลือจากทนาย เพื่อให้คำแนะนำว่าตนควรทำอย่างไรต่อไป
ด้านชาวบ้านที่ทราบเรื่องต่างให้กำลังใจเจ้าของบ้าน โดยเห็นว่าการเรียกเงิน 1 แสนบาทนั้นมากเกินไป และแม่ของเด็กก็ควรมีส่วนรับผิดชอบด้วยเช่นกัน
ทางฝั่งแม่ของเด็กหญิงที่ได้รับบาดเจ็บเล่าเหตุการณ์ในมุมของตนว่า ลูกของตนแค่พิงกำแพงแล้วกำแพงก็โยกจนพังล้มทับขา ไม่ได้โหนกำแพงตามที่เจ้าของบ้านกล่าว ทั้งนี้ยังมีการนำเรื่องร้องเรียนไปโจมตีครอบครัวของตนในโซเชียล จนทำให้เกิดความเสียหาย โดยแม่ของเด็กกล่าวว่าเธอต้องการเพียงให้มีการพูดคุยกัน แต่เจ้าของบ้านกลับไม่มีน้ำใจที่จะดูแลถามไถ่ลูกของตน